FFXIV Shadowbringers
5.3 Impressions & Thoughts (พาร์ท 1/?)
เห็นทยอยกันจบหลายคนแล้ว อิมเพรสชั่นส่วนมากคือไปทำอีเวนท์หน้าร้อนทั้งน้ำตา 😂 ผ่านมาอาทิตย์นึงละเริ่มได้เวลาที่ลงคอนเทนต์สปอยล์เกี่ยวกับเนื้อเรื่องซะที พาร์ทแรกนี้จะพูดความรู้สึกของเราที่มีต่อแพทช์นี้ค่ะ
*แน่นอนว่าสปอยล์เลอร์
ยังเล่นไม่จบ 5.3 หนีไปป*
.
.
.
=อำลาเดอะเฟิสต์=
ไฮป์กับแพทช์นี้พอสมควร เพราะตั้งแต่ HW มา แพทช์เลข X.3 ถือเป็นแพทช์สำคัญในเนื้อเรื่องที่จะสรุปประเด็นค้างคา มักทำให้ประทับใจรองมาจากฉากจบใน expansion ก่อนที่ X.4-X.5 จะเป็นแพทช์ปูเรื่องไปยังภาคต่อไป
.
ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ต้องปิดประเด็นที่เดอะเฟิสต์ทั้งหมดในแพทช์เดียว เพราะเนื้อเรื่องหลักจะไม่ได้กลับมาโฟกัสที่เดอะเฟิสต์อีกแล้ว ยิ่งครั้งนี้เป็นแพทช์ปิดเรื่องของ 5.0 ที่ทำไว้ดีมากจนเป็นจุดที่ยากจะแตะถึงซ้ำอีก
.
พอได้บอกลาเดอะเฟิสต์ ความดีงามของภาคนี้ที่รู้สึกได้ชัดคือ ทีมงานสามารถทำให้เราแคร์กับสถานที่และคนในโลกนอร์แวรนดท์ได้จริงๆ
.
ดันเจี้ยน The Heroes' Gauntlet คือเจ๋งมาก เหมือนเป็นขั้นกว่าของ The Ghimlyt Dark ทำให้เราได้ทบทวนว่านับตั้งแต่เริ่มต้นภาคนี้ ตัวละครเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง สร้างสัมพันธ์ พบเจอคนมากมาย
.
แม้แต่ตัวประกอบสุดๆ คนงานเหมืองอย่างพวกเจอริก ก็ยังโผล่มาช่วยข้างทางทำให้ยิ้มได้ เหล่าแฟรี่ก็มา ตามสัญญาที่เฟย์โอเคยพูดไว้ว่าขอแค่บอกคำเดียว ทั้งอิลเมฮ์กจะลุกขึ้นสู้เพื่อเรา
พวก NPC จากเควสโรลทั้งหมดก็มา โชคดีที่เล่นครบสี่โรลจึงรู้จักตัวทุกตัว ทุกคนเห็น WoL และเพื่อนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของโลกนี้
.
ทำเอารู้สึกว่าไม่อยากกลับเดอะซอร์สซะงั้น ฮา เปรียบเทียบแล้วเดอะเฟิสต์เหมือนบ้าน แต่เดอะซอร์สเหมือนที่ทำงาน…
กระนั้น WoL ก็ไม่ได้กลับมาจากเดอะเฟิสต์แบบมือเปล่า นอกจากได้แมวมาตัวนึง ยังได้ระแคะระคายเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอดีตของตัวเองสมัยเป็นแอนเชี่ยน ที่จะเป็นบทส่วนสำคัญต่อไปในอนาคต
.
.
=No fight left to fight=
สำหรับตัวละครสำคัญที่เป็นตัวเด่นของแพทช์นี้ โฟกัสอยู่ที่สองคน คือคริสตัลเอ็กซาร์คและอิลิดิบัส
ลองอ่านความคิดเห็นของแฟนด้อมต่างประเทศ หลายคนเห็นว่าส่วนของเอ็กซาร์คทำได้ดีมาก แต่ผิดหวังกับจุดจบของอิลิดิบัส ในด้านของบทที่รวบรัด (สำหรับส่วนของไทรอัลคือชมเป็นเสียงเดียวกันว่ายอดเยี่ยม)
.
เนื่องจากอิลิดิบัสเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวมานานมากแล้วตั้ง 6 ปีก่อน นิสัยใจคอรวมถึงจุดประสงค์เป็นปริศนามาตลอด พอเฉลยเรื่องของแอสเซี่ยนใน 5.0 และอิลิดิบัสกลายเป็น Unsundered คนสุดท้าย คนก็คาดหวังมิติขอตัวละครและความเข้มข้นระดับเดียวกับเอเม็ท
.
แต่แล้วก็ไม่ได้รู้จักตัวตนของเขา ไม่ได้เห็นหน้าตาที่แท้จริง ไม่ได้รู้ชื่อจริง ทีมงานเปิดเผยว่าอิลิดิบัสที่เห็นมาตลอดเป็นแค่ไพรมอลที่แยกตัวออกมาจากโซดิอาร์ค และก็เขียนให้ถึงจุดจบ ตายตรงนี้เลย จึงมีบางส่วนรู้สึกว่าตัวละครนี้ underdeveloped และเสียของ
.
มู้ดของเรื่องก็ดันจบด้วยอารมณ์แฮปปี้สุดๆ นอกจาก WoL แล้วดูเหล่าตัวละครจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับการที่ฆ่าแอนเชี่ยนคนสุดท้ายจนสิ้นเผ่าพันธุ์ เหมือนปราบตัวร้ายเสร็จแล้วเย้กลับบ้าน ความลึก น้ำหนักของการตัดสินใจ ความ mature จาก 5.0 ดูจะหายไป
.
อีกเหตุผลก็คือ กำจัดอิลิดิบัสแล้ว ท่าทางของเส้นเรื่องจะไปโฟกัสกับตัวร้ายต่อจากนี้ คือเซนอสกับแฟนดานีลแทน ซึ่งหลายคนมองบนกับสองตัวนี้ รู้สึกว่าน่าเบื่อ ไม่คุ้มค่ากับการที่จะทิ้งเส้นเรื่องของแอนเชี่ยนไป
.
สำหรับเรา เข้าใจประเด็นที่ผิดหวัง แต่เราชอบปมของอิลิบิดัสมาก เขาเป็นตัวตนที่แยกออกมาจึงไม่สมบูรณ์ มีแต่ความมุ่งมั่นที่ค้างคาหัวใจแม้จะไร้ความทรงจำ
.
แนวทางของตัวละครนี้ไม่เหมือนกับเอเม็ท ซึ่งก็เหมาะสมแล้วที่จะไม่เล่นปมเดิมซ้ำๆ อิลิดิบัสคือตัวละครที่น่าเวทนาที่สุด เขาทิ้งได้แม้ชีวิตของตน ทิ้งแม้ความทรงจำที่สำคัญที่สุด เพื่อทำหน้าที่ให้ผู้คนที่เขารัก
แต่สุดท้ายต้องเสียทุกอย่าง No fight left to fight, No life left to live ของแท้ เพราะตัวตนของเขาจริงๆตายไปนานแล้ว (มีรายละเอียดหลายประเด็นที่อยากพูดถึง รวมถึงเซนอสกับแฟนดานีลด้วย ขอยกไปไว้พาร์ทต่อจากนี้)
.
กระนั้นก็เห็นด้วยในส่วนที่ว่าบทค่อนข้างจะรวบรัดเกินไปมากๆ เห็นหลายคนยังงงอยู่เลยว่าทำไมเป็นถึง Unsundered แบบเอเม็ทแต่ตายง่ายจัง คือมีบอกในเรื่องแล้วแต่นำเสนอไม่ค่อยเคลียร์
.
ถึงอิลิดิบัสจะอยู่มาหกปี แต่มีเวลาให้ปูเรื่องของเขาจริงจังแค่แพทช์ครึ่งเท่านั้นเอง สุดท้ายก็เป็นตัวร้ายที่ต้องตายเพื่อสร้างซีนให้เอ็กซาร์ค ทั้งน้ำหนักและศักดิ์ศรีดูไม่เท่าเทียมกับช่วงไฟนอลของ 5.0 ที่ตอนนั้นรู้สึกว่าเป็นเรื่องของเราและเฮดีส เด่นทั้งคู่และสถานการณ์มัน high-stakes จริงๆ
.
แม้ไม่ถูกใจการนำเสนอที่น่าจะซอยละเอียดได้กว่านี้ แต่ถ้ามองว่าด้วยเวลาที่จำกัดในหนึ่งแพทช์ ต้องจบประเด็นอื่นด้วย ซึ่งแพทช์นี้ทำตรงส่วนประกอบเล็กๆน้อยๆอื่นๆได้ดีมาก
ฉากลาคือซึ้งทุกอัน คำบอกลาของรีน,ไลน่า คู่สามีภรรยาไค เด็กผีฮาลริค อาร์ดเบิร์ตกับเซโต้ (อันนี้ดาเมจรุนแรงมาก...😭) พอดูโดยรวม ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีแล้วล่ะ
.
ต่อมาคือเรื่องที่พวกไซออนดูจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ ทั้งที่ใน 5.2 จะพยายามหาทางพูดคุยกับอิลิดิบัส แต่สุดท้ายก็เข้าจังหวะเดิมๆเดินหน้าฆ่ามันอยู่ดี คือบทมันเขียนบีบมาแบบเนี้ย...ยังไงก็ต้องฆ่าอ่ะแหล่ะ ต้องรอดูเนื้อหาต่อๆไป ถ้าไม่ได้เรียนรู้อะไรจากภาคนี้เลย อันนั้นถึงจะ waste ของจริง ซึ่งดูจากศักยภาพการเขียนเรื่องที่ผ่านมา เรามองว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้น
.
รวมถึงเส้นเรื่องแอนเชี่ยนก็ไม่ถูกทิ้งแน่นอน บทเริ่มปูไปทางตัวตนในอดีตของ WoL แล้ว (The 14th หรือ Azem) คุณองค์ชายถุงกอล์ฟก็ย้ำซะว่าฝันถึงอามุรอททุกวัน โซดิอาร์คกับไฮเดลีนก็ยังอยู่ทั้งคู่ ทั้งหมดนี้คงจะเป็น(และต้องเป็น)จุดหลักของภาคหน้า
เนื่องจากทีมงานเคยบอกว่าจะจบเรื่องของโซดิอาร์คกับไฮเดลีนใน 6.0 และกราฮาเทียเองก็พูดย้ำช่วงท้ายแพทช์ว่ากำลังจะเข้าสู่บทสรุปของเรื่องราวในดาวดวงนี้แล้ว
.
.
=New old friends=
ว่าแล้วก็ขอพูดถึงเอ็กซาร์ค เป็นตัวเอกของแพทช์นี้เลย ด้วยความรับผิดชอบที่จะพาเหล่าไซออนกลับบ้าน และก็ต้องดูแลให้เดอะเฟิสต์ปลอดภัยจนวินาทีสุดท้าย คนดีศรีคริสตัลทาวเวอร์
.
เล่นไปก็ลุ้นชะตาหนักหน่อย พร้อมกับที่ช็อคความเหลี่ยมเทกซ์เจอร์ผ้าถุงของพี่แก... คือแตกยับบบทิ่มตาทุกฉาก 😱 ยังกะเทกซ์เจอร์เกมเพลย์สอง แต่กระนั้นก็ซึ้งกับฉากบอกลาบนยอดหอมาก ‘การเดินทางครั้งหน้า พาฉันไปด้วยนะ’
.
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ทั้งชีวิตอันยาวนานของกราฮาเทียในเดอะเฟิสต์ใฝ่ฝันถึงแต่ WoL ไม่ใช่เรื่องของ romance แต่มันเหนือกว่านั้น เขายกย่อง WoL เป็นคนที่อยากเอาเป็นแบบอย่าง เป็นผู้กล้าที่แสดงให้เห็นว่าความหวังคือสิ่งค้ำจุนผู้คน
.
สิ่งที่ WoL ทำไม่ใช่แค่การช่วยเหลือคนตรงหน้า แต่เป็นการปลูกฝังสร้างฮีโร่คนต่อไปและต่อไป และกราฮาเทียเข้าใจความสำคัญของสิ่งนี้ เขาพร้อมจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆในตำนานหรือแม้จะถูกลืมก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้ทำสิ่งดีๆที่จะส่งไปยังรุ่นต่อไปเหมือนกับ WoL
.
ก็เป็นธีมของ ShB คือส่งต่อความทรงจำและความหวัง ที่หักมุมก็คือ...นอกจากพี่แกจะไม่ตาย... ยังย้ายความทรงจำมาได้หมดอีก! ได้อยู่ในร่างหนุ่มอีก!!! เฮ้ย!!!! อะไรมันจะดีขนาดนั้น
.
คือโคตรเป็น best possible result ตอนแรกคิดว่าเอ็กซาร์คกลายเป็นคริสตัลไป แล้วเรากลับมาปลุกกราฮาเทียของเดอะซอร์สแหงๆ ถึงจะไม่ใช่คนเดียวกัน แต่มันก็สุขปกซึ้งดีนะ เข้ากับธีมเรื่องด้วย
.
แต่สุดท้ายกลายเป็นหวานเจี๊ยบไม่มีขมเลย แถมได้มาเป็นปาร์ตี้เมมเบอร์ด้วย ในตี้จะมีแมวโกงความตายสองตัวแล้วใช่มั้ยคระ
.
ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบ fake out death (ยั่วว่าจะตายแล้วไม่ตาย) บ่อยๆ คือถ้ามีเหตุจำเป็นก็โอเค แต่ยกตัวอย่าง ยาชโตล่าที่แกล้งปักเดธแฟลกหลายรอบแต่ไม่ตายซะทีจนไม่ขลังแล้ว สำหรับเอ็กซาร์คก็ไม่อยากให้ดำเนินไปในทางเดียวกัน (จะว่าไป ทีตอนปาปาลิโม่ มูนบริวด้า อิซาล ตายแล้วตายเลย…)
.
.
อีกคนที่อยากให้ได้มาเป็นไซออนด้วยคือรีน
อันนี้แปลกใจ บทน้อยเชียว เหมือนน้องโดนทิ้งง สำหรับเรา รีนเป็นตัวละครที่สำคัญกว่าตัวละครเฉพาะของ expansion ที่จะใช้แล้วจบบทในภาคแบบฮิเอ็น,ลีซ นอกจากบทในเกมแล้วด้านดีไซน์ทำออกมาได้ดีมาก (กรุณาดูจำนวนแฟนอาร์ต) มีศักยภาพจะเอามาดันเป็นตัวเด่นต่อไปได้สบายๆ
.
ก็เข้าใจว่ายังต้องมีเนื้อเรื่องของเอเดนพาร์ทสุดท้ายอีก อาจจะต้องไปเคลียร์ตรงนั้นก่อนแล้วค่อยตามมา หรือไม่ก็มาอีกทีภาคหน้า แบบอลิเซ่ที่ตอนแรกบทอยู่แต่ในเหรดคอยล์ กว่าจะมาเข้าเมนเควสจริงจังก็สตอร์มบลัด
ยังไงก็คาดหวังว่าจะเจอกันอีกทีกับบทหลักของรีนในอนาคตอันใกล้ค่ะ
.
.
.
=อื่นๆ=
- เนื้อเรื่องรอบนี้ยังไม่ทันเล่นก็โดนเพื่อนสปอยล์แบบไม่ตั้งใจด้วยคำอธิบายเฟอร์จิเนอร์ใหม่ในเกมที่คราฟต์จากของดรอปลาสต์บอส... คุณพระ โดยสปอยล์แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ แต่ก็พอจะเดาได้อยู่ละ
- มองในมุมของแอนเชี่ยน อิลิดิบัสเองก็ถือเป็นนักรบแห่งแสง ซึ่งคำจำกัดความของ Warrior of light ตรงกับคำใบ้ของโยชิพีที่ให้ปีที่แล้ว
- คือทุกๆปีใหม่ โยชิพีจะมีจดหมายทักทายแฟนเกมและใบ้ถึงเนื้อหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป ปีที่แล้วพูดถึงเรื่อง WoL ‘ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอเพียงมีจิตวิญญาณที่อยากช่วยเหลือผู้อื่น และทำสิ่งที่ต้องทำโดยไม่คำนึงถึงตนเอง นั่นเองคือนักรบแห่งแสง’
- ตอนแข่งตีค้างคาวกับอลิเซ่ มีบทพูดต่างกันด้วย มีแบบเสมอกับแพ้ ของเราเสมอแล้วอลิเซ่หงุดหงิดที่พยายามเต็มที่แต่ก็ยังได้แค่เสมอ เพราะเธอไม่อยากแพ้/ต้องพึ่งพาเราตลอดเวลา พัฒนาการของอลิเซ่ที่อยากจะสู้ในฐานะเพื่อนที่เสมอกันนั้นน่ารักดี
- จากเสียงวิจารณ์ว่า 5.1 เนื้อเรื่องเบาไปไม่ค่อยมีประเด็นน่าสนใจ น่าจะแบ่งบทสำคัญๆไป develope ในแพทช์นั้นบ้าง หลายๆประเด็นของ 5.3 จะได้เคลียร์กว่านี้ คือต้องเข้าใจกระบวนการเขียนเนื้อเรื่องเกมนี้ก่อนว่า ทีมเขียนบทมีหลายคน
- และด้วยข้อจำกัดของโครงสร้างเกมที่ต้องออกเป็นแพทช์ย่อย ทำให้เวลามีจำกัด/น้อย รวมไปถึงการที่ต้องอัพเดตอย่างต่อเนื่อง ทีมเขียนบทจึงต้องแยกกันเขียนเนื้อเรื่องของแพทช์ 5.1-5.3 จะได้เขียนไปพร้อมกันและเสร็จตรงเดดไลน์ได้
- เราเข้าใจว่า 5.3 คนเขียนบทคือหัวหน้าทีมเนื้อเรื่อง นัทสึโกะอิชิกาว่า (คนเขียน 5.0 ทั้งหมด) เพราะเคยมีบทสัมภาษณ์ บอกไว้ว่าเธอจะได้เขียนบทหนึ่งแพทช์ในช่วง 5.1-5.5 (เวลาที่เหลือน่าจะต้องไปเขียน 6.0) คิดว่าเป็นแพทช์นี้แหล่ะ
- พอเนื้อเรื่องมันต้องแบ่งเป็นแพทช์ แล้วส่วนสำคัญต้องให้คนเขียนหลักเขียนเลยมีสกรีนไทม์ที่จะอธิบายได้ไม่สมดุล ก็เป็นข้อกำจัดอย่างนึงนะ
- อีกข้อจำกัดที่รู้สึกมากๆในแพทช์นี้คือ...เอนจิ้นเก่าพระเจ้าเหาของเกมที่เป็นปัญหามาตั้งแต่ 1.0 และข้อจำกัดด้านกราฟฟิก อย่างที่บอกไปว่าเทกซ์เจอร์ตัวเอกซาร์คแตกยับมากๆจนน่าเกลียด จนขนมปังของทาทารุกลับละเอียดกว่า คิดแบบฝันๆนะว่าหลัง 6.0 จบอยากให้ยกเครื่องขึ้นเกมใหม่ไปเลยอ่ะ เป็นภาคออนไลน์ใหม่ หรือเป็น 14 ภาคสองหรืออะไรก็ได้ ตอนนี้งานด้านภาพของเกมคือเชยมากเอาตัวรอดด้วยอาร์ตสไตล์และการกำกับศิลป์ที่ดีล้วนๆ
- แต่อนิเมชั่นแพทช์นี้พัฒนาขึ้นมากเลยนะเนี่ย ซีนท้ายๆอลิเซ่มีไถลเก้าอี้ ยาชโตล่าลูบไม้เท้า ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากเลย
.
.
.
ป.ล. พาร์ทต่อไป จะพูดถึงประเด็นเนื้อเรื่องสำคัญต่างๆ อิลิบิดัส เฮดีส อาเซ็ม หินคริสตัล และเซนอส&อาซาฮี (ไอ้ตัวสุดท้ายนี่รวมใจ(เกลียด)แฟนด้อมได้ยิ่งกว่า WoL อีกอ่ะ lol)
#FF14 #Shadowbringers